โปร่งใส ไม่ลับหลัง ไม่ตามกระแส
ได้ลองอ่านพระไตรปิฎก พบเรื่องที่น่าชื่นชมพระพุทธองค์อย่างหนึ่งคือ เมื่อเกิดเหตุขึ้น ท่านจะเป็นผู้ลงมาตัดสินเอง รวมทั้งตั้งคณะกรรมการที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านขึ้นมาด้วย ที่สำคัญไม่ตัดสินกันลับหลัง ทำให้มีความโปร่งใสมาก โดยใช้เกณฑ์เรียกว่า สัมมุขาวินัย
สรุปง่ายๆ คือ
1. มีคณะกรรมการ
2. มีโจทย์และจำเลย
3. มีหลักฐาน
4. ยึดหลักเกณฑ์
เรียกง่ายๆว่า Fair Play มีการตัดสินอย่างยุติธรรม ที่ต้องตั้งกฎนี้ขึ้นมาเพราะไม่มีอะไรใหม่ เมื่อสองพันปีก่อนก็มีกรณีกลุ่มพระแสบ เหมือนกันนะครับ

ในสมัยนั้น เคยมีกลุ่มพระภิกษุฉัพพัคคีย์ รวมกันตัดสินลงโทษพระภิกษุลับหลัง โดยใช้วิธี บังคับขมขู่, ตัดสิทธิ, ขับไล่, ให้ขอขมาคฤหัสถ์ และไม่ให้ใครคบ (ยังกะอันธพาลครองเมือง) เมื่อพระพุทธเจ้าทราบท่านจึงบัญญัติพระวินัย "ห้ามทำการตัดสินลับหลังผู้ถูกลงโทษ ผู้ใดทำทรงปรับอาบัติทุกกฎ"
คำศัพท์เอาไว้อ้างอิง
ขมขู่ (ตัชชียกรรม), ถอดยศหรือตัดสิทธิ (นิยสกรรม), ขับไล่ (ปัพพาชนียกรรม), ให้ขอขมาคฤหัสถ์ (ปฏิสารณียกรรม), ไม่ให้ใครคบ (อุกเขปนียกรรม)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น